您现在的位置是:DailyThai > สารานุกรม

【fin89auto】'ปุ้ย L.กฮ.' ย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่าย ฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิต เจ็บที่เราเบาที่สุด! | เดลินิวส์

DailyThai2025-03-15 04:43:56【สารานุกรม】9人已围观

简介ท่ามกลางกระแสที่เป็นไวรัลหลายคนจับตาดราม่าเส้นทางรักของ “ลำไย ไหทองคำ” และ “ปุ้ย L.กฮ.” ที่เหมือนจะต fin89auto

ท่ามกลางกระแสที่เป็นไวรัลหลายคนจับตาดราม่าเส้นทางรักของ “ลำไย ไหทองคำ” และ “ปุ้ย L.กฮ.” ที่เหมือนจะต้องปิดฉากรัก 9 ปี หลังสาวลำไยมาโพสต์ประกาศเลิกไม่ใช่มือที่สาม ปรากฏว่ามีเพจพากันขุดคุ้ยก่อนพบว่า สาวลำไยเคยสานสัมพันธ์กับแดนเซอร์ชายในวงเกินกว่าเพื่อนในทีม ซ้ำมีการแฉทางค่ายเคยให้ค่าเสียใจอดีตแฟนสาวของแดนเซอร์ชาย 2 ล้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ปุ้ยLกฮย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่ายฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิตเจ็บที่เราเบาที่สุดเดลินิวส์

ล่าสุด ปุ้ย L.กฮ. นักร้องนำวงร็อกแดนใต้ ได้มาเปิดใจที่แรกหลังเจอมรสุมดราม่าชีวิตครั้งใหญ่ แพลนอนาคตหลังจากนี้จะเป็นยังไง พร้อมย้อนเล่าชีวิตวัยเด็กสุดทรหด ไม่เหลือเงินติดตัวเลยสักบาท ต้องเก็บเงินข้างถนนกิน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 โดย ปุ้ย L.กฮ. เผยว่า

ปุ้ยLกฮย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่ายฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิตเจ็บที่เราเบาที่สุดเดลินิวส์

หลังเจอมรสุมมาเยอะๆ สภาพจิตใจตอนนี้ปกติดีครับ ซึ่งเรื่องที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องค่อนข้างหนัก แต่ก็ไม่ถึงขั้นเครียดถึงขั้นร้องไห้หรอกครับ เพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ถ้าเราจัดการความรู้สึกตัวเองได้ก็ไม่น่ามีปัญหาครับ ก็ค่อนข้างแข็งแรงในการใช้ชีวิต โดยผมใช้เทคนิคจัดการกับปัญหาที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันเป็นธรรมดาของธรรมชาติแหละครับ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผมหรือใครก็แล้วแต่ ก็มีปัญหากันทุกคน อยู่ที่เราจะวางยังไง วางได้เร็วก็จะทุกข์ไม่นาน แต่ถ้าวางได้ช้าก็จะทุกข์กันนานๆ เทคนิคคือวางให้เร็ว ทุกข์ได้แต่อย่าไปยึดติดอะไร เดี๋ยวพอหมดเรื่องนี้ ชีวิตคนเราผมก็ต้องทุกข์ใหม่อีก ทุกข์ต่อไปอีกเรื่อยๆ ครับ อดีตแก้ไขไม่ได้ มีความสุขให้เร็วที่สุด ผมก็โพสต์ในเฟซบุ๊กว่าไม่ว่าปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็แค่ปัญหาหนึ่ง ไม่ว่ารู้สึกรัก เกลียด โกรธ โลภ มันก็แค่ความรู้สึกหนึ่ง จะสุขจะทุกข์ก็แค่ความรู้สึกหนึ่งเช่นเดียวกัน การหยุดความรู้สึกเป็นการหยุดที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ซึ่งตอนที่โพสต์เราคิดว่า อยากให้กำลังใจคนอื่นกลับบ้าง เพราะคนอื่นให้กำลังใจผมเยอะแล้ว ที่ผมโพสต์ก็อยากจะให้กำลังใจคนอื่นว่าไม่ว่าเรามีปัญหายังไง ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา อยู่ที่ความคิดเรา การที่เราหยุดที่ตัวเองจะไม่เหนื่อย ถ้าเราไปหยุดคนอื่นมันหยุดยาก หยุดที่เรา จบที่เราเบาที่สุด เราไม่ว่า ไม่นินทาใคร ไม่ได้กล่าวถึงใครเลยพูดแต่เรื่องตัวเอง ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นผู้ชายแบบนี้ มาจากคำสอนของคุณพ่อ ซึ่งคำสอนของพ่อก็จะจำได้ตลอด คือลูกผู้ชายต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ที่จำได้ขึ้นใจ แต่มีหลายคำ แต่ประโยคนี้แกจะพูดบ่อย เวลาโทรฯมาทุกวันนี้ก็จะบอกว่าเราเป็นลูกผู้ชาย ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน อยู่ไหนก็ได้ ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็จะย้ำ

ปุ้ยLกฮย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่ายฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิตเจ็บที่เราเบาที่สุดเดลินิวส์

โดยสิ่งที่เกิดขึ้น ถามว่าได้เรียนรู้อะไรบ้าง มันไม่ถึงกับเรียนรู้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราก็รับรู้อยู่แล้วในบางเรื่อง ผมอยู่กับความทุกข์ มาตั้งแต่แม่ผมป่วย ทุกคนดูเหมือนผมวางได้เร็ว เพราะเป็นประสบการณ์ แม่ผมป่วยมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ แล้วแม่ผมเคยจะเสียสองรอบแล้ว หมอบอกว่าแม่จะไม่รอดมาสองครั้งแล้ว เหมือนเราอยู่กับแบบนี้มาจนเราเข้าใจว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งจะต้องมีคนที่นั่งๆ กันอยู่ พี่ผม ก็ต้องจากกัน ไม่จากเป็นก็จากตาย ก็รู้สึกว่ามันก็เป็นแบบนี้แหละ เวลาใครถามผม ผมก็จะบอกว่ามันเป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวสักวันพี่ก็จะเจอปัญหาเหมือนที่ผมเจอ แต่อาจแค่ต่างสถานการณ์กัน เรามีภูมิต้านทานไว้บ้างแล้ว พอวันนี้เจอสิ่งที่ค่อนข้างหนัก เราเลยรู้สึกว่าเรารับมันได้ เราปล่อยวางมันได้ ได้วิธีคิดบทเรียน ซึ่งผมคิดตลอดเวลาอยู่แล้ว น่าต้องทำให้ดีขึ้นไป แต่ไม่รู้จะวิธีไหน (หัวเราะ) แต่คนเราถ้ามีเหตุผล เรานิ่ง เวลาเราเจออะไรเราก็คิดได้ ถ้าเรานิ่งๆ ไว้ อาจคิดไม่ได้วันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจคิดได้ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องขึ้นส่วนใหญ่ผมให้กำลังใจคนอื่น ทุกวันนี้ผมยังให้กำลังใจคนอื่น ใครถามผมเรื่องเศร้า ผมก็จะตอบกลับไปว่าพี่ไม่ต้องมาเศร้าเรื่องผมนะ ปัญหาพี่ก็มีอีกเยอะ พี่ก็ใช้ชีวิตต่อ เชื่อผมเถอะ เดี๋ยวลูกพี่ เมียพี่ก็จะมีปัญหา พี่ทำใจไว้ได้เลย พี่เอาผมเป็นบทเรียนแล้วกัน ผมจะชอบพูดกลับไปแบบนี้ ไม่ชอบตอบอะไร ซึ่งคนชอบคิดว่าผมทำเป็นแข็งแรง แต่จริงๆ ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมเสียอะไรไป หรือได้อะไรมา ผมก็รู้สึกว่าผมปกตินะครับ ก็อยากจะบอกกับทุกคนว่า ขอบคุณทุกคน ขอบคุณทุกกำลังใจครับ ดีใจที่ได้รับกำลังใจจากทุกคน ผมก็ขอส่งกำลังใจคืนกลับไปให้ทุกๆ คนด้วยนะครับ

ปุ้ยLกฮย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่ายฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิตเจ็บที่เราเบาที่สุดเดลินิวส์

วัยเด็กเรามีพี่น้องทั้งหมด 6 คนครับ ร่วมบิดามารดา 2 คน พี่ๆ 4 คน พ่อเดียวกันแต่คนละแม่ แต่ความรู้สึกก็เหมือนพ่อแม่เดียวกันทั้ง 6 คนพี่น้อง คุณพ่อเป็นคนเลี้ยงมาเหมือนกัน ตอนนั้นพ่อผมเป็นทหาร ไม่ได้เป็นสัญญาบัตรนะครับ เป็นจ่า ไม่ค่อยได้มีรูปถ่าย รูปนานมากแล้ว ลูก 6 คนจะบอกว่าสบายก็คงไม่ใช่ คือได้มีไฟฟ้าใช้หลังสุดท้ายของหมู่บ้านครับ คนอื่นเขาได้ไฟกันหมดแล้ว ตอนนั้นน่าจะเรียนประถมแล้ว ประมาณ ป.1 แต่ก่อนเตารีดเขาใส่ถ่าน มีใบตองรองแล้วรีด เมื่อก่อนอากาศไม่ได้ร้อนขนาดนี้ ธรรมชาติยังดีกว่านี้มากๆ สมัยผมเด็กๆ แต่ก่อนอ่านหนังสือก็เป็นตะเกียงน้ำมัน มีเทียน ชุดนักเรียนมีชุดเดียว พี่น้องมีคนละหนึ่งชุด มันเป็นข้อดีนะของการที่เรามีชุดนำเรียนชุดเดียว พ่อบอกว่าเราต้องซักทุกวัน ต้องรีดทุกวัน จริงๆ เราลำบากนี่แหละครับ แต่พ่อทำวิกฤติให้เป็นโอกาส ฝึกเราไปในตัว ถ้าเรากลับจากโรงเรียน ต้องซักชุดนักเรียนก่อน พ่อจะให้ซักเอง ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบตื่นเช้ารีดชุดให้แห้งให้เรียบก่อนไปโรงเรียน ก็รีดเอง ซักเอง ซึ่งเราเป็นเด็กผู้ชายต้องมีวันที่เลิกเรียนแล้วอยากไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน วันไหนเลิกเรียน นานๆ สักครั้ง ถ้าไปเล่นฟุตบอลหรือทำอะไรกับเพื่อน กลับมาพ่อจะทำโทษ ต้องกลับมาบ้านก่อน เปลี่ยนซักชุดนักเรียนก่อนแล้วค่อยไปเล่นกับเพื่อนได้ ต้องล้างจานก่อน พ่อสลับเวรให้พี่น้องล้างจาน ตักน้ำกิน สมัยก่อนเป็นน้ำบ่อบาดาล ตักมาใส่ถัง ต้องผลัดกัน ล้างจาน กวาดบ้าน ถามว่ามีวันไหนฝนตกแล้วชุดไม่แห้งไหม ไม่ ของพ่อต้องแห้งครับ เพราะเราซักตอนเย็น เราตากไว้ พอตื่นเช้าไปโรงเรียน 8 โมง เราต้องตื่น 6 โมงเพื่อมารีดชุดก่อน รีดตอนเช้า ซึ่งผมโดนพ่อทำโทษบ่อยครับ ก็ให้คัดลายมือ ให้วิ่งออกกำลังกาย 4-5 กิโล ส่วนใหญ่คัดลายมือจะหนักเลย เปิดหนังสือ 10 หน้า เราต้องคัดทั้ง 10 หน้า แล้วสมัยรุ่นผม 10 หน้าเนื้อหามันเยอะมาก โดนทำโทษเรื่องชุดนักเรียนเลอะบ้าง เล็บยาวบ้าง ชีวิตนี้เล็บผมไม่เคยพ้นเนื้อเลยครับ (หัวเราะ) มันกลัวเลย มันตามมาฝังใจเรา พ่อพยายามให้ลูกเรียนหนังสือให้สูงที่สุด แม้ไม่ได้มีเงินมากตอนผมจบปวช. 3 คือ ม.6 พ่อก็ไปสมัครอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อได้เบี้ยเสี่ยงภัย ได้เพิ่มขึ้น ลูกจะได้เรียนสูงขึ้น เพราะผมกับพี่ชายห่างกันสองปี พอผมปวช.3 พี่ชายก็จบปวส. 2 ก็ไปเรียนที่เดียวกัน ตอนนั้นมีพี่ๆ เริ่มได้ทำงานบ้างแล้ว แต่พ่อก็ไปลง 3 จังหวัดเพื่อเอาเบี้ยเลี้ยงเพิ่ม เอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อจะได้เงินสูงขึ้นเพื่อส่งลูกเรียน พ่อบอกว่าถ้าเราเรียน เราเลือกงานได้ งานจะไม่ได้เลือกเรา ถ้าเรามีความรู้ เราจะเลือกงานได้ พ่อจะชอบเรื่องกลอน เรื่องลายมือ พ่อบอกว่าผู้ชายถ้าลายมือสวย จะได้เป็นเจ้าคนนายคน (หัวเราะ) พ่อแกจะเป็นคนโบราณหน่อย ถามว่าได้ติดมาจนได้ใช้ในเรื่องการเขียนเพลงด้วยมั้ย ผมว่าหลักๆ ก็มาจากพ่อนี่แหละ 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะพ่อเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนด้วย ซึ่งพ่อหวง ถึงเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่ให้ทำงานพิเศษ แกบอกว่าหน้าที่ของผมคือตั้งใจเรียนก่อน ถ้าเรียนจบค่อยว่ากัน ถ้าเรียนอยู่ไม่ต้องทำ ผมเคยไปทำ ตอนนั้นเรียนอยู่ปวช. แล้วเพื่อนไปตักขี้ไก่ กระสอบละ 2 บาท ตักใส่กระสอบ เราก็ไปด้วย พ่อก็มาตาม เขาโกรธ บอกว่านี่ไม่ใช่วัยทำงาน เดี๋ยวพอทำงานแล้วจะไม่เรียน จะมาอ้างโน่นอ้างนี่ ไปทำหน้าที่ของตัวเองก่อน เรื่องนี้เดี๋ยวพ่อจัดการเอง อาจลำบากไปบ้าง แต่ไปทำหน้าที่ของตัวเองเถอะ

ปุ้ยLกฮย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่ายฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิตเจ็บที่เราเบาที่สุดเดลินิวส์

ซึ่งจุดเปลี่ยนชีวิต ตัดสินใจหยุดการเรียน คืออยากดัง อยากมีชื่อเสียง อยากทำเพลง ตอนเด็กๆ ผมร้องเพลงลูกทุ่งก่อน ประกวดตามโรงเรียน ร้องเอาผ้าขนหนูในงานวันเด็ก เราก็มีความชอบตั้งแต่เราจำไม่ได้ จนอยากเป็น แล้วผมทำท่าจะชอบดนตรีมากกว่าทุกอย่าง เริ่มชอบดนตรีมากกว่ากฎหมาย ไม่ค่อยท่องตัวบทมาตราแล้ว แต่ก่อนเด็กนิติต้องมีตัวบท ผมก็ไม่พกครับ ก็เลยตกลงกับพี่ชายว่าผมจะไปทำเพลงนะ ให้พี่ชายตั้งใจเรียนให้จบ ถ้าพี่ชายเรียนจบ ผมลำบาก พี่ได้เป็นอัยการ ผู้พิพากษา พี่เลี้ยงผมด้วย แต่ถ้าผมได้เป็นนักร้องสมใจ มีเงิน พี่เรียนไม่จบ ผมก็จะเลี้ยงพี่ ก็สัญญากัน พี่ชายก็โอเค พี่ชายตั้งใจเรียน ผมก็ตั้งใจทำเพลง แต่ไปๆ มาๆ เหมือนจะดีด้านศิลปิน เพราะตกลงกันแล้ว ตอนนี้พี่ชายจบเนฯ ไปแล้วครับ เขารอสอบอัยการอยู่ ซึ่งเมื่อก่อนเคยไปขอข้าวชาวบ้านกิน ตอนนั้นกลับจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ใต้แล้วครับ ไปหลอกพ่อว่ามีค่ายเพลงเรียกตัวให้ไปฝึกเป็นนักร้อง ค่ายก็อยู่จังหวัดตรัง อยู่ใต้เหมือนกัน อยู่ใกล้ๆ กัน พ่อแม่ก็เชื่อ โกหกเขา หลอก ตอนนั้นไม่มี ไปเสนอก็ไม่มีใครรับไว้ครับ เราบอกพ่อว่าระหว่างนี้ค่ายให้ไปร้องเพลงในเมือง ในตลาด มีคนจ้างให้ร้องเพลงระหว่างรอค่ายเรียกตัวเหมือนเราได้ฝึกตัวเองไปด้วย เราหารายได้จากการร้องตามร้าน แต่ไม่มีคนจ้างนะ แต่หลอกไว้ก่อน พยายามไปยื่นแล้วแต่ไม่ผ่าน ดูบุคลิกผม ใครจะเอาไปปั้น ตอนนั้นมีคนบอกว่าเสียงแหบ บุคลิกแบบนี้ไม่ดังหรอก วัยรุ่นตอนผมกลับไปอยู่ที่ใต้ ถ้าพ่อไปเทสต์ร่างกาย วันนั้นผมออกจากบ้านไม่ได้นะ เพราะผมใส่รองเท้าพ่อเวลาออกไปไหน (หัวเราะ) ไปไหนเขาก็ไม่รับ เราเข้าใจมันเป็นธุรกิจ ค่ายเพลงจะรับใครเขาก็ต้องเล็งเห็นแล้วว่าเขาทำกำไรได้ เข้าใจเขา ซึ่งเราโกหกพ่อ พ่อจับไม่ได้ ผมประสบความสำเร็จก่อน เริ่มแรกได้ร้องร้านแรกคืนละ 50 บาทก่อน แล้วไม่ถึงเดือนร้านเขาปิดไป ไปร้องร้านอื่นได้คืนละร้อยสองร้อย ก็ร้องได้ไม่กี่วัน มีนักร้องคนอื่นมาแทน ก็ว่างงาน ไปดูเพื่อนร้อง ไปนั่งรอ คนโน้นคนนี้ให้ทิปมา 20 30 เวลาไม่มีข้าวสารผมก็โกหกพ่อ ขอข้าวสารจากหอเพื่อนคนโน้นคนนี้ เหมือนผมรู้จักพี่ ผมขอข้าวสารสองโลสามโล เอามาผสมได้สัก 5 โล 10 โล แล้วไปบอกพ่อว่าได้ร้องเพลงมา ซื้อมา กับข้าวบางทีเป็นข้าวกล่องคนอื่น เพื่อนเขาให้เราเขารู้ว่าผมค่อนข้างจะไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน

ปุ้ยLกฮย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่ายฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิตเจ็บที่เราเบาที่สุดเดลินิวส์

วันหนึ่งก็ทำได้จริงๆ มาเป็นปุ้ย L.กฮ. ตอนนี้ ย้อนกลับไปพออยู่แบบนั้นช่วงปีแรก ช่วงปีหลังผมได้ร้องร้านประจำแล้ว ตอนนั้นเขามีวงร้านอยู่แล้ว มีพี่คนหนึ่งที่ร้องประจำอยู่ที่นั่นเขาไปคุกเข่าขอเจ้าของร้านว่าขอฝากน้องชาย น้องชายผมลำบากจริงๆ ทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นคนดูแลผมอยู่ พี่คนนี้ยังอยู่ด้วยกัน ทีนี้เจ๊ก็ให้ ให้วันละ 100 แต่ล้างห้องน้ำชายด้วย 2 ห้อง ให้ร้องคืนละ 2 เพลง แต่เพื่อนในวงถ้าได้ทิปเขาก็แบ่งผม ไปร้องได้เดือนนิดๆ ผมก็ได้ขึ้นเงินเดือนมาเป็น 18,000 บาท เพราะเจ๊เขาเห็นผมขยัน เห็นผมทำงานได้ ผมทำทุกอย่าง เขาก็ให้ผมเป็นหัวหน้าวง ผู้จัดการวง ก็ได้ 1.8 หมื่น เป็นวงเดิมที่อยู่ในร้าน มีมือกลองที่อยู่ด้วยกันจนทุกวันนี้ ถามว่าอะไรทำให้คนติดใจเพลงเรา ทำให้มีชื่อเสียงจนทุกวันนี้ คือมันเป็นแนวทางที่มันชัดเจน แอลกอฮอล์จะพูดถึงความจริงของสังคมในยุคนั้น ผมทำเพลงโดนด่านะ เพลงผมจะเนื้อหาแรงมาก ตรงๆ เป็นคำตรงๆ สองแง่สองง่าม เพลงที่ปล่อยออกมาคือถุงยาง เพลงที่ทำให้คนเริ่มรู้จักคือเสร็จแล้ว มีวันหนึ่งผมเจอพี่เทพ ผมบอกกับเพื่อนว่าเดือนละ 1.8 หมื่นมันไม่พอ น้องผมเรียนหนังสือ พ่อแม่อีก เรามีหนี้มีสินมาก่อนหน้านี้ ผมโกหกพ่อว่าค่ายเรียกตัว ผมจะอยู่แบบนี้ไม่มีหลักไม่ได้ เดี๋ยววันหนึ่งพ่อจับได้ผมมีปัญหาแน่ ผมเลยชวนเพื่อนออกจากร้านไปหาค่ายเพลงอยู่ ทีนี้ก็กลับมาลำบากอีกแล้ว ตอนนั้นออกมาทั้งวงเลยไปหาค่าย ซึ่งชื่อ L.กฮ. มาจากไปก๊อบปี้เขามาร้านในซอยมหาดไทย ตอนอยู่รามฯ แต่ก่อน ไปขอเขาร้องเพลงร้านนี้ เขาไม่ให้ร้อง ชื่อร้านเขาสวยด้วย เลยตั้งใจว่าเดี๋ยวจะไปทำเพลงดัง แล้วจะเอาชื่อร้านนี้ เดี๋ยวพี่ต้องจ้างผมแน่เลย ร้านเขาสะกดแบบนี้เลย ก๊อบปี้มาหมดเลยทุกอย่าง ซึ่งร้านนี้เขาปิดไปแล้วครับ (หัวเราะ) ผมไม่เคยเจอเจ้าของร้านเลย ตั้งแต่ไปขอเขาร้องก็ไม่เคยเจอ ร้านเขาปิดไปแล้ว ส่วนตอนนี้มีเพลงใหม่ล่าสุด วางแผนเอาไว้จะปล่อยเร็วๆ นี้ แต่มีสาเหตุต้องเลื่อนออกไป อยากให้กระแสซาก่อน จริงๆ ทำไว้ 4 เพลง จะปล่อยตั้งแต่มี.ค.เป็นต้นไป เพลงก็แนวๆ เดิม ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดเลยครับ รอดูท่าทีก่อน ส่วนคิวงานตอนนี้งานเยอะขึ้น เหมือนพอมีกระแส คนก็สนใจในขณะนั้นครับ จากเดือนหนึ่งมี 2-3 งาน ตอนนี้งานเต็มทุกวัน แต่หลังจากนี้เราก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน แล้วเดี๋ยววันต่อๆ ไปก็จะมีทางออกเองครับ แต่วันนี้ต้องจัดการทุกอย่างให้ดีก่อน จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีก่อน ฝากติดตามผลงานด้วยครับ

ปุ้ยLกฮย้อนเส้นทางกว่าจะดังมันไม่ง่ายฝ่ามรสุมบทเรียนชีวิตเจ็บที่เราเบาที่สุดเดลินิวส์

很赞哦!(445)

相关文章